ทำไมเครื่องบินถึงปล่อยเชื้อเพลิงทิ้งก่อนลงจอด

เครื่องบิน คุณพักสบายๆ อยู่ตรงที่นั่งฝั่งหน้าต่างบนเครื่องบิน ทันใดนั้นคุณก็สังเกตเห็นอะไรขาวๆ ออกมาจากส่วนท้ายของปีกเครื่องบิน มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าจะตกหรือไม่ ไม่ต้องตื่นตระหนกช่วงนั้นนักบินแค่กำลังดำเนินการตามขั้นตอนปกติ

ที่เรียกว่าการปล่อยเชื้อเพลิงและเหตุผลที่พวกเขาต้องกำจัดเชื้อเพลิงซึ่งไม่ได้ราคาถูกเลย นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งไม่ใช่ เรื่องแปลก ที่เครื่องบินจะปล่อยเชื้อเพลิงทิ้งระหว่างที่กำลังบินอยู่ วันนั้นคือนักบินยังต้องตั้งใจทำด้วยตอนแรกอาจฟังดูเหมือนสิ้นเปลืองอย่างมาก

เมื่อลองดูเอาเองเครื่องบินโบอิ้ง 737 300 ซึ่งมีขนาดกลางออกแบบมาสำหรับเที่ยวบินระยะสั้นและระยะกลาง ใช้เชื้อเพลิง 2 ตันครึ่งต่อชั่วโมงในการเดินทางราคาของเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินเจ็ทยิ่งแพงกว่าอีก 600 ดอลลาร์ต่อตัน นั่นหมายถึงว่าขณะที่ขับเครื่องบินประเภทนี้คุณจะใช้เงินดาวน์ 1,500 ดอลลาร์ต่อการบิน 1 ชั่วโมง พูดอีกแบบหนึ่งคือเมื่อเครื่องเดินทางจากนิวยอร์กไปลอสแองเจลิส ซึ่งใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง

จะเผาผลาญเชื้อเพลิงเป็นมูลค่า 7000 ดอลลาร์ ฉันบอกได้เลยว่ามันมากน่าดูเลย เพราะฉะนั้นมาหากันดีกว่าว่าทำไมนักบินถึงใช้เงินมหาศาลนั่นไปแบบตรงตามตัวอักษรจริงๆ ความจริงก็คือ ในสถานการณ์แบบนั้นก็ปล่อยเชื้อเพลิงทิ้งเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าอย่างอื่น คือบินส่วนใหญ่ต้องลงจอดต้องเบากว่าตอนที่ดินขึ้นเช่น 200000ปอนด์ ปัญหาของการลงจอดคือจะสร้างแรงเสียดทานสูงกว่าตอนบินขึ้น ที่ทำให้เครื่องบินที่เบากว่าอย่าง

เครื่องเจ็ทลงจอดได้ดีกว่า ถ้าเครื่องบินไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงมากพอตอนลงจอด อัดกระแทกพื้นแรงเกินไปซึ่งอาจนำมาสู่ความเสียหายร้ายแรง อีกท่านหนึ่งนักบินมากไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการมีเชื้อเพลิงเหลือมากไป เพราะปัญหานี้ตั๋วเครื่องบินจะจัดการเองได้ เที่ยวบินของเครื่องบินพาณิชย์จะใช้เชื้อเพลิงเกือบหมดแล้ว เมื่อถึงเวลาลงจอดที่จุดหมายก็จะมาพร้อมที่จะลงจอดอย่างปลอดภัย แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินและเครื่องบินลงจอดเร็วกว่าที่

คาดไว้ จึงต้องใช้วิธีการปล่อยเชื้อเพลิงทิ้ง และโดยทั่วไปเกิดขึ้นก่อนลงจอดนึกว่าเนื่องจากเครื่องบินขึ้นกัปตันเคิร์ก ก็ค้นพบว่าเครื่องมีปัญหาหรือผู้โดยสารต้องรับการรักษาฉุกเฉิน แน่นอนว่านักเรียนสามารถเผาผลาญเชื้อเพลิงด้วยการบินไปรอบๆ หรือปล่อย Landing Gear ลงมาได้ ซึ่งจะช่วยให้การเผาผลาญเชื้อเพลิงรวดเร็วขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้จะช่วยได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เมื่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และนั่น

ก็ได้เวลาขับเชื้อเพลิงออกมีไม่กี่คนที่รู้ว่าเชื้อเพลิงส่วนใหญ่จะเก็บไว้ที่ศูนย์ปีกของเครื่องบิน นั่นเป็นเหตุผลที่นักบินกดปุ่มที่ห้องควบคุมระบบอันชาญฉลาดจะขับเคลื่อนและท่อต่างๆ 

จะทำงานทันทีและหัวฉีดพิเศษที่ปีก็จะปล่อยเชื้อเพลิงออกมาระบบอันแสนมหัศจรรย์นี้สามารถขับเชื้อเพลิงได้เป็นพันปอนด์ในเวลา 1 นาที และนั่นก็คือสิ่งที่คุณเห็นจากที่นั่นข้างหน้าต่างนั่นเองในอีกทางหนึ่งไม่ใช่เครื่องบินทุกลำที่มีระบบอันซับซ้อนแบบนี้ ตัวอย่างเช่นเครื่องบินที่มีลำตัวแคบยัง Boeing 757 หรือแอร์บัส a320 ไม่สามารถปล่อยเชื้อเพลิงทิ้งได้ ความสามารถแบบนี้มีไว้สำหรับนกเหล็กลำบากมาที่มีเชื้อเพลิงสำรอง แล้ว

เครื่องลำเล็กมีทางเลือกแบบไหนบ้างสำหรับเครื่องลำเล็กทางเดียวคือ ลงจอดทั้งที่มีน้ำหนักเกินโชคไม่ดี ที่ในกรณีแบบนี้ความเสียหายที่เกิดกับเครื่องบินอาจร้ายแรงมาก และการซ่อมแซมแท่งยิ่งกว่าการปล่อยเชื้อเพลิงทิ้ง อีกอย่างในสภาวการณ์เช่นนี้เครื่องอาจไม่สามารถจอดได้ทันเวลา และในกรณีเลวร้ายที่สุดก็ลงจอดในสภาวะน้ำหนักเกิน อาจนำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้เชื้อเพลิงระเบิด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่โครงสร้างของเครื่องบิน

อนุญาตให้นักเรียนเลือกเชื้อเพลิงมากกว่าจะนำชีวิตของผู้โดยสารไปเสี่ยง ที่จริงการปล่อยเชื้อเพลิงไม่ใช่กระบวนการที่เกิดขึ้นตามปกติ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผู้ควบคุมการสัญจรทางอากาศตรงช่วยนักเรียนในขั้นตอนนี้ และการให้อยู่ห่างจากเครื่องละหมื่น ละถ้าเอาจริงๆ ถ้าเครื่องบินที่บินผ่านเริ่มปล่อยคนแก๊สโซลีนลงมา วางใจได้ไม่มีอะไรต้องกังวลเชื้อเพลิงส่วนใหญ่จะระเหยไปขณะที่อยู่ในอากาศ และไม่ตกถึงพื้นอย่างไรก็ตามจะเกิดขึ้นใน

วันที่อากาศอบอุ่น หรือเมื่อเครื่องบินปล่อยเชื้อเพลิงในเพดานสูงมากกว่า 5,000 บาทหรือ 1,500 เมตรเนี่ยดูเลวร้ายในมุมที่ว่าก่อมลพิษต่อสภาพแวดล้อม แต่ความจริงอันน่าข่มขืนคือไม่ว่าจะทางใดเมื่อเครื่องบินขึ้นไปบนฟ้าเชื้อเพลิงก็จะลงเอยด้วยการระเหยไปบนชั้นบรรยากาศดี อย่างไรเสียเครื่องบินทุกลำต้องบรรทุกเชื้อเพลิงมากกว่าที่จำเป็น เพื่อให้ครอบคลุมระยะทางจากจุด a เป็นจุด B ก็จะออกบิน กัปตันเคิร์กต้องมั่นใจว่าเครื่องบินมี

เชื้อเพลิงมากพอสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ ซึ่งประกอบด้วยเชื้อเพลิงในการเดินทางซึ่งเครื่องบินต้องใช้ในการขึ้นบินใส่เพดานบิน บินไปลดลงและพื้นเชื้อเพลิงที่จำเป็นในกรณีที่เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินอื่นเชื้อเพลิงสำรองเชื้อเพลิงที่ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ เช่นลมแรงหรือเที่ยวบินล่าช้าเชื้อเพลิงที่ใช้บนทางขับเครื่องบินจะเผาผลาญตั้งแต่อยู่บนภาคพื้น เชื้อเพลิงเพิ่มเติมสำหรับเหตุฉุกเฉินทุกชนิดอย่างเครื่องยนต์

ล้มเหลว ว้าวมากทีเดียวไม่ต้องสงสัยเลยว่าเครื่องบินต้องกำจัดเชื้อพวกนี้ก็จะลงจอดได้อย่างราบรื่น เรามีเรื่องมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ ในวันที่ 29 ธันวาคม 2014 เที่ยวบิน Virgin atlantic 43 มุ่งหน้าไปลาสเวกัสออกจากสนามบินไม่นาน หลังจากนั้นนักบินก็ตระหนักว่าขี่รถลงข้างขวาติดขาดและไม่ผลัดเข้าไปทางเดียว คือหันหัวกลับแล้วนมชิดแต่นั่นคือเครื่องโบอิ้ง 747 หรือที่เรียกกันว่า Jumbo Jet ขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ 4 ตัวเชื้อเพลิงใน

เครื่องบินเตรียมไว้สำหรับเที่ยวบินระยะไกลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และหนักเกินกว่าจะลงจอดได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางมาไม่  

นานและอย่าลืมว่าล้อเครื่องยังทำงานผิดปกติด้วยตอนแรก นักบินนำเครื่องบินไปถึงเพดานบิน 10,000 หรือเรา 300 เมตรเพื่อปล่อยเกียร์ที่ติดขัดให้หลุดออกไป เมื่อไม่ได้ผลเครื่องบินเครื่องบินบนเพดานต่ำเพื่อเผาผลาญเชื้อเพลิงชนิดนี้คือที่อยู่ใกล้พื้นดินมากเท่าไหร่เชื้อเพลิงที่ ทหารก็ยิ่งมากขึ้นสูงขึ้นไปในระดับเพดานบินของเครื่องบินอากาศเบาบางกว่า และแรงต้านทานน้อยกว่าทำให้เครื่องบินไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงมากนักในการเคลื่อนที่

หลังจากบินวนหลายชั่วโมง ในที่สุดนักบินก็ทิ้งเชื้อเพลิงในเขตตอนใต้ของอังกฤษได้มากพอที่จะร่อนลงแก๊สอีก โชคดีที่ถึงจะไม่สมบูรณ์พวกเขาก็ยังพาเครื่องลงจอดได้อย่างราบรื่น ผู้โดยสารกว่า 450 คนและลูกเรือปลอดภัยดีไม่มีอะไรนอกจากอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคุณยังเกิดนะสงสัยว่าทำไมเชื้อเพลิงถึงเก็บไว้ที่ปีกนี่คือคำตอบอย่างแรกเพื่อช่วยลดแรงเสียดทานของปีกเครื่องบินในระหว่างออกตัวแล้วใส่เพดานบิน แล้ว

เครื่องยังต้องแบกน้ำหนักหลายร้อยตันขึ้นไปบนอากาศแรงเสียดทานบนปีกเครื่องบินมาถึงขนาดทำให้ตีโค้งงอได้เลย ดังนั้นเมื่อลดแรงเสียดทานปีจึงต้องบรรทุกเชื้อเพลิงซึ่งทำให้พี่คงที่และหนักมากขึ้น และเพื่อลดการโค้งงอตัวอย่างเครื่องแอร์บัส A380 800 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ไม่มีถังบรรจุส่วนกลางเลยจ้ามีแต่ละข้างรับน้ำหนักเชื้อเพลิงเครื่องเจ็ทได้ถึง 200,000 วอนหรือราว 132 ตัน 

เหตุผลที่ต้องบรรจุเชื้อเพลิงไว้ที่ปีเพื่อลดน้ำหนักรวมตั๋วเครื่องบินซึ่งจะลดแรงดันจากฐานปีกด้วยเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นทั้งหมดเชื้อเพลิงที่ปีกยังช่วยทำให้ศูนย์ถ่วงของเครื่องบินอยู่ในตำแหน่งที่น่าพอใจ ถ้าเชื้อเพลิงทั้งหมดเก็บไว้ที่ส่วนหัว หรือส่วนท้ายศูนย์ถ่วงก็จะเปลี่ยนไปตามปริมาณการใช้เชื้อเพลิง และคงส่งผลต่อความคงที่ของ เครื่องบิน ไปด้วยนั่นแหละ

อ่านสาระเพิ่มเติมคลิก! : อินเตอร์เน็ต