รถไฟนำเที่ยวชายทะเล
รถไฟนำเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาวนานหลายวัน อยู่บ้านนานนานก็มีเบื่อกันบ้าง เราก็ลองนั่ง หาทริป ที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองมากมาย ไปได้แบบไม่สะเทือนเงินในกระเป๋า
เพราะจริงจริงแล้วช่วงนี้ควรประหยัดไว้ แต่แหม่คนเราก็ต้องมีที่อยากออกไปข้างนอกพักผ่อนให้สบายใจสบายอารมณ์กันบ้างถูกต้องมั้ยละคะทุกคน
เรานั่งหาข้อมูลอยู่นานเลยว่าจะเอายังไงกับทริปที่ต้องการ เรียกว่าโจทย์ในการคิดค่อนข้างเยอะมากมากค่ะ เพราะเราอยากไปเที่ยวแต่ต้องไม่แพงมากจนเกินไป
ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ต้องไปไกลมาก ไม่ค้างคืนเพราะช่วงนี้พ่อเราไม่ค่อยสบายค่ะเลยต้องคอยหาข้าวปลาอาหารไว้ให้
ไปไหนแบบค้างคืนหรือไปที่ไหนไกลเกินไปก็ยังไม่สะดวกสักเท่าไหร่
ถ้าพูดถึงเรื่องความประหยัดในการเดินทางแล้วนั้น บอกได้เลยว่าการใช้บริการรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทยถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากและเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วค่ะ
ถ้าเทียบกับวิธีการเดินทางอื่นๆที่มี อย่างเครื่องบิน รถบัส รถทัวร์ หรือการเช่ารถ เพราะเครื่องบินก็อาจจะมีราคาสูงกว่าแต่ข้อดีก็คือเมื่อเทียบเวลาแล้วเครื่องบินก็ไว้ใจได้
ถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็วทันใจกว่ารถไฟ หรือจะเป็นรถบัส รถทัวร์ อันนี้บางที่ราคาพอๆกับรถไฟค่ะ แค่บางที่นะแต่ถ้าเราเดินทางไปจังหวัดใกล้ใกล้รถไฟถูกกว่าค่ะ
หรือการเช่ารถอันนี้ต้องสำหรับคนที่มีงบเยอะเยอะ หรือมีเพื่อนไปช่วยเป็นตัวหารหลายคนถึงจะคุ้ม และอีกเหตุผลหนึ่งคือเราไม่ค่อยเคยชินสักเท่าไหร่กับการนั่งรถบัส
รถทัวร์ พอหาไปหามาได้คำตอบแรกเลยคือการใช้บริการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะความประหยัดเลยค่ะ
ช่วงที่นั่งเปิดหาสถานที่ หาข้อมูลอยู่เราก็ไปเจอกับข้อมูลของ รถไฟนำเที่ยว ซึ่งเป็นรถไฟที่วิ่งช่วงเสาร์และอาทิตย์รวมถึงวันหยุดต่างๆ ราคาก็สบายกระเป๋ามากมาก
เรียกว่าไปเช้าเย็นกลับแต่ได้ไปนั่งรับลมทะเลสวยสวย แบบสบายใจเลยค่ะ พอเห็นว่าระหว่างทางเขาจะมีการแวะให้ลงไปสักการะพระปฐมเจดีย์เพิ่มความเป็นสิริมงคล
เติมบุญให้ชีวิตปังปังเข้าไปอีกเราก็สนใจค่ะ เลยทำการโทรไปถามการรถไฟแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับข้อมูลที่เบอร์โทรศัพท์ของคอลเซ็นเตอร์การรถไฟแห่งประเทศไทยเลยค่ะ
สายตรงสุดสุดได้ความว่า รถไฟนำเที่ยว นี้สามารถจองล่วงหน้าได้สมมุติว่าโทรศัพท์ไปจองกับการรถไฟแห่งประเทศไทยวันนี้ วันรุ่งขึ้นก็ไปรับตั๋วไปเลยแต่ต้องโทรศัพท์จองที่นั่งก่อนวันเดินทางห้าวันนะคะ
ถ้าโทรศัพท์หลังจากห้าวันก่อนเดินทางจะไม่สามารถจองผ่านโทรศัพท์ได้ ต้องเดินทางไปซื้อตั๋วโดยสารที่หน้าเคาท์เตอร์สถานีรถไฟอะไรก็ได้ใกล้บ้านหรือที่สะดวกเลยจ๊ะ
เราเองโทรศัพท์จองไม่ได้เหมือนกันเพราะโทรศัพท์หาคอลเซ็นเตอร์ก่อนวันเดินทางแค่สามวันแต่เราถามข้อมูลมาครบพอวันรุ่งขึ้นเราเลยไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
อย่างน้อยมีตั๋วไว้ให้อุ่นใจ ค่าตั๋วรถไฟมีสองราคาค่ะ ถ้าเลือกนั่งรถไฟแบบธรรมดาชั้นสามราคา 120 บาท
ราคานี้เท่ากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่นะคะ ส่วนถ้าใครกลัวจะร้อนก็สามารถจองแบบรถไฟปรับอากาศชั้นสองราคา 240 บาท
เท่ากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่เช่นเดียวกันจ้า ราคานี้คือเป็นราคารวมตั๋วโดยสารทั้งขาไปและขากลับแล้วนะคะ เรียกว่าราคาเบาเบาสบายกระเป๋ามากค่ะ
พอถึงวันเดินทางเราก็เตรียมพร้อมเลยจ๊ะ สิ่งที่เราพกไปเป็นประจำเวลาขึ้นรถไฟก็คือ พัด พัดแบบถือนี่แหละค่ะเอาติดไปเผื่อร้อนจะได้ไม่เป็นหมูย่างเวลาร้อนมากมากพัดช่วยได้ดีเลยค่ะ
แล้วเราเป็นคนติดน้ำเย็นมากมากค่ะเลยพกแก้วเก็บความเย็นอัดน้ำแข็งไปเต็มแก้วจริงจริงรถไฟไทยจะมีพ่อค้าแม่ค้าขึ้นมาขายของอยู่เรื่อยเรื่อยนะคะ
แต่เราเคยแบบตอนนั้นอากาศร้อนเสียเงินซื้อน้ำเย็นเป็นร้อยเลยแบบกินน้ำเยอะอะค่ะเลยฝังใจกลายเป็นมาพกแก้วเก็บความเย็นสบายใจเลยจะได้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อน้ำเย็นบ่อยบ่อย
เราเตรียมพร้อมที่สถานีรถไฟหัวลำโพงตอนหกโมงเช้าค่ะตามกำหนดการรถไฟออกจากสถานีตอนหกโมงครึ่งขบวนรถไฟเลขที่ 911 รถไฟออกตรงเวลาเลยค่ะวันที่เราไป
ประมาณเกือบแปดโมงรถไฟก็ถึงสถานีนครปฐมค่ะ ถ้าตามกำหนดการจะถึงตอนเจ็ดโมงสี่สิบนาทีเรียกว่ามีดีเลย์บ้างแต่ไม่มากประมาณสิบห้านาทีค่ะ
รถไฟจะจอดให้เราได้ลงไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์และเดินชมตลาดแถวนั้นประมาณสี่สิบนาทีค่ะถึงจะออกตัวจากสถานีรถไฟพระปฐมเจดีย์มุ่ง ตรงไปสู่สถานีรถไฟหัวหินที่ว่ากันว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยมากเลยล่ะค่ะ
รถไฟถึงสถานีรถไฟหัวหินประมาณสิบโมงครึ่งตรงนี้เนี่ยใครจะลงไปถ่ายรูปก็ได้นะคะหรือถ้าใครอยากไปเล่นน้ำที่หาดหัวหินเขาก็อนุญาตให้ลงค่ะ
นั่งรถสองแถวต่อไปที่ชายหาดหัวหินไม่ไกลค่ะแล้วตอนเย็นค่อยมารอขึ้นรถไฟขากลับได้เลย ส่วนใครที่ไม่อยากลงไปเล่นน้ำที่ชายหาดหัวหินก็นั่งรถไฟต่อไปลงที่สวนสนประดิพัทธ์เดินนิดเดียวก็ถึงชายหาดแล้วค่ะ
จากสถานีหัวหินไปถึงที่สวนสนประดิพัทธ์รถไฟใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ พอถึงแล้วใครจะลงเล่นน้ำนั่งเล่นรับลมทะเล ก็แล้วแต่ความต้องการเลยค่ะ
บางคนก็เช่าเสื่อปูนั่งเล่นกินอาหารถ้ามีเด็กเด็กยิ่งสนุกเลยค่ะเพราะที่ชายหาดสวนสนประดิพัทธ์มีพื้นที่ให้เด็กเด็กวิ่งเล่นสนุกสนานเลยล่ะค่ะ ตรงนี้เนี่ยเค้าให้เวลาเราประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ
เพื่อเล่นน้ำทะเล นั่งเล่นทานอาหารตามสบายเลยค่ะ รถไฟจะออกอีกที ตอนบ่าย 3 โมง 31 นาที เตรียมตัวให้พร้อมแล้วก็ขึ้นรถไฟค่ะ เพื่อที่จะนั่งรถไฟกลับกรุงเทพฯ
รถไฟจะแวะจอดรับผู้โดยสารที่ลงสถานีหัวหินตอนประมาณบ่าย 3 โมง 39 นาทีค่ะ ตอนนั้นเราก็ไม่แน่ใจว่ารถไฟดีเลย์มั้ย ไม่ทันได้ดูเวลาค่ะ หลังจากรถไฟออกตัวจากสถานีรถไฟหัวหินก็ยิงยาวเลยค่ะไม่จอดแวะที่ไหนเลย
มุ่งหน้าตรงเข้ากรุงเทพเลยค่ะเพราะตามกำหนดการประมาณหนึ่งทุ่มยี่สิบห้านาที จะต้องถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง วันที่เราไปรถไฟถึงช้ากว่าเวลาที่กำหนดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงค่ะ
แต่เราว่าก็คุ้มดีนะคะนั่งรถไฟไปเที่ยวเพลินเพลินราคาไม่แพงไปเล่นน้ำทะเลสวยๆ ใครอยากลองนั่งรถไฟไปเที่ยวแบบเราก็ลองดูได้เลยค่ะ
เขียนโดย ณิชชกา