โรงเรียนบ้านกล้วย

หมู่ 2 บ้านกล้วย ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 228666

โรคอ้วนเป็นภัยคุกคามสุขภาพ

โรคอ้วนเป็นภัยคุกคามสุขภาพ

 

 

โรคอ้วน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หลายคนอาจคิดว่าไม่ใช่โรคอ้วนแทบ ไม่คิดว่าเป็นโรคและเป็นโรคเรื้อรัง

โรคเรื้อรัง หมายถึง โรคทางพยาธิสรีรวิทยาที่ไม่ติดเชื้อ และผิดปกติซึ่งสะสมปีต่อปี และโดยปกติโรคเหล่านี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้

ทำไมโรคอ้วน จึงเรียกว่า โรคเรื้อรัง ประการแรก โรคอ้วน ต้องมีการจัดการตลอดชีวิต แม้ว่าเราจะมีวิธีการควบคุมน้ำหนัก แต่ถ้าเราตามใจและไม่จัดการ โรคอ้วนก็จะเกิดขึ้นอีก ถ้าไม่ควบคุมความอ้วนก็จะมีปัญหาสุขภาพตามมา และอาจทำให้เป็นโรคอื่นอีกด้วย

1. โรคอ้วนทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง

มีหลายโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญ เช่น เบาหวานไขมันในเลือดสูง โรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้นโรคเหล่านี้ โดยทั่วไปเป็นที่รู้จักของประชาชน

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงโรคบางอย่างที่ประชาชนอาจไม่ทราบ เช่น โรคอ้วนจะเพิ่มอุบัติการณ์ของเนื้องอกโรคกระดูก และข้อถุงน้ำดีอักเสบ และตับอ่อนอักเสบ

มีลักษณะของความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ และพัฒนาการ เช่น ชายวัยรุ่นหากเป็นโรคอ้วนการทำงานของอสุจิขนาดของอวัยวะเพศภายนอก จะได้รับผลกระทบสำหรับผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะมีบุตรยากกลุ่มอาการรังไข่หลายใบ

สรุปแล้ว ผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพครอบคลุมอวัยวะ และการทำงานเกือบทั้งหมดของร่างกายมนุษย์ เราควรจัดการโรคอ้วนในลักษณะเดียวกับ การจัดการโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ

2.อะไรคือเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคอ้วน

เกณฑ์การวินิจฉัยโรคอ้วนทั่วโลกในปัจจุบันคือ ดัชนีมวลกาย (BMI) ดัชนีมวลกาย (BMI) คำนวณโดยการหารน้ำหนักตัวด้วยกำลังสองของความสูง น้ำหนักเป็นกิโลกรัมและส่วนสูงเป็นเมตร

ค่าดัชนีมวลกายปกติอยู่ที่ 18.5 – 24 สำหรับชาวเอเชีย หากค่าดัชนีมวลกายเกิน 24 แสดงว่ามีน้ำหนักเกินหากเกิน 28 จะเป็นโรคอ้วน

นอกจากค่าดัชนีมวลกายแล้ว ในทางการแพทย์ยังช่วยวินิจฉัยโรคอ้วน โดยการวัดเส้นรอบวงหน้าท้อง นั่นคือ การวัดเส้นรอบวงของหน้าท้องผ่านไม้บรรทัด

โรคอ้วนสามารถวินิจฉัยได้ หากเส้นรอบวงท้องของผู้ชายมากกว่า 85 ซม. และผู้หญิงมากกว่า 80 ซม.

3. วิธีการจัดการน้ำหนักสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนมีอะไรบ้าง

สำหรับผู้ป่วยทุกรายที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วนจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไป แน่นอนว่ายังมีผู้ป่วยบางราย ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีอาการแน่นหน้าอก อาจทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง หรือเจ็บปวดในบริเวณที่เป็นโรคไตอักเสบรุนแรง ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตจากเบาหวานอย่างรุนแรง ก็ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายเช่นกัน

แต่การควบคุมอาหาร เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยโรคอ้วน ทุกคนสามารถทำได้โดยทั่วไปแพทย์จะให้ใบสั่งยาตามอาการของผู้ป่วยเอง นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยโรคอ้วนจะมีเกณฑ์ในการรักษาด้วยยา 2 ข้อดังต่อไปนี้ ข้อหนึ่งคือ ผู้ป่วยลดน้ำหนักได้สำเร็จและดีดตัวอีกครั้ง และอาการดีดตัวขึ้นกว่าเดิมประการที่สอง คือ ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง โดยการออกกำลังกายง่ายๆและ การควบคุมอาหาร ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักได้ตามปกติและจำเป็นต้องใช้ยา นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีภาวะแทรกซ้อนหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตไม่สามารถควบคุมน้ำหนักได้ด้วยวิถีชีวิตเพียงอย่างเดียว แพทย์จะแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดลดความอ้วน

4. ควรกินอย่างไรเพื่อป้องกันและควบคุมโรคอ้วน

เมื่อเลือกอาหารหลัก ให้จับคู่เมล็ดธัญพืชอย่างมีสติ ธัญพืชอุดมด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งสามารถชะลอการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของแบคทีเรียในลำไส้ และทำให้ลำไส้มีสุขภาพดีขึ้น กินขนมอบที่มีน้ำตาลน้อยลง ขนมอบที่ละเอียดอ่อนจำนวนมาก ได้เพิ่มสารให้ความหวานหรือน้ำตาล

ดังนั้นควรรับประทานให้น้อยที่สุด กินอาหารแปรรูปน้อยลงและปรุงอาหารด้วยตัวเองมากขึ้น เมื่อคุณปรุงอาหารเอง คุณสามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่า มีอะไรเพิ่มเข้ามาบ้าง คุณสามารถควบคุมและกะปริมาณได้เอง

เรียนรู้ที่จะจับคู่อาหาร คุณต้องเรียนรู้ที่จะคำนวณการบริโภคอาหารหลักในแต่ละวัน คุณภาพของโปรตีนปริมาณน้ำมัน ปริมาณเกลือ

ดังนั้น หากอยากจะมีสุขภาพที่ดี ไม่เป็นโรคอ้วน ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ อาหารที่ย่อยสลายง่าย จะทำให้กระเพาะอาหารของเราทำงานไม่หนัก สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากตัวเรา เลือกทานอาหารแบบไหน ก็จะได้รับผลตามมาแบบนั้น

 

อ่านสาระเพิ่มเติมคลิก : รูปถ่ายของ Damei’er